เที่ยวเมืองจันทบุรี เราเคยไปที่นี่มาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อไปไหว้รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ล่าสุดไปเมื่อ 3 – 4 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้เราตั้งใจไปเที่ยวในตัวเมืองจันทบุรี เพราะได้ข้อมูลมาว่าชุมชนริมน้ำจันทบูรได้พัฒนาขึ้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนววิถีชีวิตแบบดั้งเดิม อันที่จริงเราเคยแวะไปแล้ว เมื่อครั้งแรกที่ไปเยือนจันทบุรี แต่ตอนนั้นยังไม่พัฒนาแบบเต็มตัว ได้เห็นสภาพบ้านเรือนเก่าๆ ยังไม่มีร้านค้าเก๋ๆ วัยรุ่นฮิปๆ เดินถือกล้องถ่ายรูป แวะเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนานแบบในวันนี้ ว่าแล้วก็ขอกลับไปสัมผัสสักหน่อย
เที่ยวเมืองจันทบุรี กับ 2 วิถีริมน้ำที่แตกต่าง
บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี Historic Inn
เราออกเดินทางด้วยรถส่วนตัวจากกรุงเทพไปถึงที่จันทบุรีประมาณเที่ยงๆ ตั้งใจไปนอนที่ “บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี Historic Inn” เราเลือกที่นี่เพราะอยากมานอนในเมืองเก่าชุมชนริมน้ำจันทบูร ได้เห็นการตกแต่งจากในรูปแล้วสวยมาก และที่สำคัญยิ่งได้รู้ว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของหลวงราชไมตรี บุคคลสำคัญของจังหวัดจันทบุรี ตัวบ้านมีอายุกว่า 150 ปี ซึ่งทางชุมชนได้ฟื้นฟูปรับปรุงให้เป็น Boutique Hotel ยิ่งทำให้อยากมามากขึ้นไปอีก ตัวบ้านจะอยู่ติดริมน้ำ ชั้นล่างตกแต่งด้วยของใช้สมัยโบราณ รูปถ่าย ประวัติของชุมชนริมน้ำจันทบูร
ส่วนห้องที่เราพักอยู่ชั้นสอง ภายในห้องแบ่งเป็น 2 ชั้น มีเตียงนอนอยู่ชั้นบน ต้องปีนบันไดขึ้นไป ส่วนชั้นล่างจะตกแต่งแตกต่างกัน บางห้องอาจจะมีเตียงหรือโต๊ะที่แตกต่าง เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ภายในห้องบางอย่างก็เป็นของโบราณจริงๆ
ร้านเจ๊อี๊ด ริมน้ำ
หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ต้องหาอาหารท้องถิ่นมาเติมพลังกันก่อนที่จะหมดแรง เจ้าหน้าที่รร.แนะนำก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลร้านเจ๊อี๊ด ก๋วยเตี๋ยวมี 2 ราคา คือ 70 บาท (กั้งเล็ก) กับ 100 บาท (กั้งใหญ่) เราสั่ง 70 บาทมาลอง ขอบอกก่อนว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอเห็นหน้าตาเท่านั้นแหละ ต้องร้องว้าว!! จัดเต็มทั้งกุ้ง กั้ง ปู ปลาหมึก รสชาติต้มยำเข้มข้นกำลังดี เปรี้ยวจี๊ดถึงใจ เสร็จแล้วตบท้ายด้วยขนมถ้วยอีกคู่เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี พลังมาเต็มพร้อมลุย!! เที่ยวเมืองจันทบุรี กัน
ชุมชนไร้แผ่นดิน
เรามาจันทบุรีครั้งนี้นอกจากตั้งใจจะมาเดินซึมซับบรรยากาศชุมชนริมน้ำจันทบูรแล้ว ยังมีอีกแห่งที่ตั้งใจไปคือ ชุมชนไร้แผ่นดิน และแวะไปดูเหยี่ยวแดง ฟังชื่อแล้วอย่าพึ่งแปลกใจไป ที่เค้าได้ชื่อนี้เพราะว่าบ้านที่เค้าอยู่กัน ตั้งอยู่บนน้ำ ต้องใช้เรือในการเดินทางเท่านั้นไม่สามารถเอารถไปได้ เราตัดสินใจว่าจะใช้เวลาอีกครึ่งวันที่เหลือไปชุมชนไร้แผ่นดินก่อน ค่อยกลับมาเดินชิลชุมชนริมน้ำจันทบูรพรุ่งนี้เช้า
เรากลับไปหาข้อมูลที่รร.ได้ความว่า ชุมชนไร้แผ่นดินอยู่ที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ห่างจากชุมชนริมน้ำจันทบูร ประมาณ 40 กิโลเมตร แล้วต้องต่อเรือไปอีก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมไปพักโฮมสเตย์ แล้วทางโฮมสเตย์จะมีเรือมารับไปที่พักและพาทำกิจกรรม นอกเหนือจากนี้ต้องเหมาเรือไปเอง เราได้เบอร์มาจากทางรร.เป็นเรือเหมาไปดูเหยี่ยวแดง แต่ลุงเจ้าของเรือไม่ว่างและราคาที่ลุงบอกกับเรา รู้สึกว่าแพงมาก แต่ยังมีความโชคดีอยู่ คือลุงแนะนำเราให้ติดต่อร้านอาหารปลายจันท์
เราโทรไปสอบถามดูว่าเหมาเรือไปดูเหยี่ยวแดง (ไม่ได้ไปชุมชนไร้แผ่นดิน) ราคาเท่าไร เจ๊ปลายสายตอบมาว่า 500 บาท สำหรับ 4 คน เป็นเรือสองตอน ราคาต่างจากลุงที่เราโทรไปถามตอนแรกมาก เราตอบตกลง เจ๊ย้ำว่าต้องมาถึงก่อนบ่ายสามนะ ร้านอาหารปลายจันท์ อยู่ใกล้ๆ กับวัดเทพขาหย่าง อ.ขลุง ต้องจอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินผ่านหมู่บ้านชาวประมงเข้าไป จึงจะเจอร้าน
เมื่อเรามาถึงร้านปลายจันท์รออีกสัก 5 นาทีเรือที่นัดไว้ก็มาถึง เป็นเรือสองตอนพร้อมคนขับ ก่อนขึ้นเรือต้องสวมเสื้อชูชีพให้เรียบร้อย พี่คนขับบอกว่าจะพาไปชุมชนไร้แผ่นดินก่อน แล้วค่อยไปดูเหยี่ยวแดง แต่ที่เราตกลงมาตอนแรกคือไปดูเหยี่ยวแดงอย่างเดียว เลยรู้สึกว่าคุ้มค่ามากกับ 500 บาท เราไม่เคยนั่งเรือสองตอนมาก่อนในชีวิต ไม่รู้ว่าเร็วแค่ไหน จากที่ตั้งใจว่าจะจะชิลๆ กลับกลายเป็นแอดเวนเจอร์เล็กๆไป ความเร็วของเรือทำเอาหมวกที่สวมลอยไปตามลม ดีที่ว่าน้ำเรียบนิ่งสนิท เจอคลื่นจากเรือลำอื่นบ้างแต่พี่คนขับก็ลดความเร็วลง ไม่เสียวเหมือนนั่งสปีดโบ๊ทตามทะเล
เพียง 15 นาทีเราก็มาถึงชุมชนไร้แผ่นดิน หรือคนท้องถิ่นเรียกว่า บางชัน ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมง สร้างบ้านด้วยการฝังเสาลงไปในน้ำแล้วตัวบ้านลอยอยู่เหนือน้ำ ในหมู่บ้านจะมีทางเดินคอนกรีตไม่กว้าง ไว้สำหรับแค่เดินหรือขี่จักรยานสวนกัน เนื่องจากเป็นหมู่บ้านชาวประมงเราก็จะเห็นของทะเลตากแห้ง กระชังเลี้ยงปลาเป็นจำนวนมาก เป็นภาพที่แปลกตาไปอีกแบบ
เรามีเวลาอยู่ที่ชุมชนไร้แผ่นดิน 30 นาที ก็เพียงพอสำหรับการเดินดูวิถีชีวิตที่นี่ ต่อจากนี้เราจะนั่งเรือไปชมเหยี่ยวแดงกัน โดยการนั่งเรือ อ๊ะ!! อย่าเรียกว่านั่งเลย ขอเรียกว่าแว๊นซ์ไปดีกว่า เราแว๊นซ์กันไปตามผืนน้ำกว้างใหญ่ที่เรียบสนิทขนาบข้างด้วยป่าโกงกางสุดลูกหูลูกตา มีบ้านชาวประมงอยู่หลังเดี่ยวๆเป็นระยะ ทุกหลังจะมีเรือสองตอนแทบทุกบ้าน บางบ้านกำลังตกปลาเพื่อเป็นอาหารเย็น เราว่าเป็นวิถีชีวิตที่ดีไปอีกแบบ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ กินอาหารคลีนสดๆ ดีกว่าพวกเราคนเมืองซะอีก
สักพักเรามาถึงจุดที่ดูเหยี่ยวแดงโดยลุงชาวประมงจะเอาเหยื่อไปล่อให้เหยี่ยวแดงบินลงมาให้เราดูใกล้ๆ แต่ลุงบอกว่าวันนี้ไม่มีเหยื่อเพราะช่วงนี้ฝนตกไม่คิดว่าจะมีคนมาดู เลยไม่ได้เตรียมไว้ สรุปว่าเราอด!!! โธ่! ลุง ไม่บอกกันก่อนบ้าง
“อย่างที่หลายคนบอกว่าบ้างครั้งจุดหมายปลายทางไม่สำคัญเท่าเรื่องราวระหว่างทาง เราคิดว่าเราพบแล้ว แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นเหยี่ยวแดงใกล้ๆ แต่ระหว่างทางที่มาเราก็เห็นเหยี่ยวแดงไกลๆไปแล้ว ได้เห็นวิถีชีวิตชาวประมง ได้เห็นผืนน้ำป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ ได้แว๊นซ์เรือสองตอน ร่วมๆ 2 ชั่วโมง แค่นี้เราว่าก็คุ้มมากแล้วกับเงินแค่ 500 บาทหาร 4”
วิวระหว่างทาง
กลับมาถึงร้านปลายจันท์ประมาณ 5 โมงเย็น เรายังไม่ได้มุ่งหน้ากลับตัวเมืองจันทบุรีในทันที เถลไถลไปตามทางตามปากของคนท้องถิ่น โดยไม่เปิด google map เราลองใช้วิธีเก่าๆ คือ “ทางอยู่ที่ปาก” ลัดเลาะชมวิวริมทะเลไปเรื่อยๆ จนถึงแหลมสิงห์ เราพบว่าเราดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบข้างมากกว่าที่ต้องโฟกัสไปที่จอมือถือ
เรากลับมาถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรตอนมืดแล้ว บ้านหลวงราชไมตรีตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วสวยมาก ถ่ายรูปหน้าที่พักสักแป๊บ แล้วออกไปสำรวจกันว่าตอนกลางคืนแถวนี้มีอะไรให้ทำบ้าง… หลังจากเดินสำรวจแล้วเห็นมีร้านอาหารให้มานั่งแฮงเอาท์ริมน้ำอยู่หลายร้าน มีความคึกคักแบบไม่อึกทึก ดูมีสีสันดี
ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ตื่นเช้าวันใหม่ด้วยการไปเดินเล่นดูวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำจันทบูร หามุมเก๋ๆถ่ายรูป เดินชิมอาหารขนมโบราณ คุณป้าร้านขายขนมใจดีมาก ให้เราชิมขนมหยกมณีจนหมดกล่องฟรีๆ และที่สำคัญอร่อยมากด้วย
เดินไปจนถึงช่วงกลางๆถนน จะพบกับพี่ๆเซียนหมากรุกจับกลุ่มโขกกันอย่างจริงจัง หยอกล้อกันตามประสาเพื่อนฝูงดูสนุกดี ใครมีฝีมือลองไปดวลกับพี่ๆเค้าดูก็ได้ เผื่อได้วิชา ได้เพื่อนติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย
ถัดมาจะเป็นบ้านเลขที่ ๖๙ บ้านเรียนรู้ชุมชนริมน้ำจันทบูร ที่นี่จะบอกเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนผ่านภาพถ่าย และสิ่งของหลายๆอย่าง
เราเดินไปเรื่อยๆข้ามสะพานจนเจอโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล เป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย ปกติสามารถเข้าไปชมภายในได้ แต่วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์เค้ามีพิธีกันภายในทำให้เข้าไปไม่ได้
จุดชมวิวเนินนางพญา
จุดหมายปลายทางต่อไปของเราในทริปนี้ คือจุดชมวิวเนินนางพญา ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เป็นจุดชมวิวถนนเลียบชายหาดที่สวยงาม คนนิยมมาถ่ายรูปกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแก๊งจักรยาน หรือบิ๊กไบค์ หากใครไปเที่ยวละแวกนั้นก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูป ชมพระอาทิตย์ตกดินกัน
จันทบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปท่องเที่ยว ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมายรอให้ทุกคนไปสัมผัสค้นหา แล้วเจอกันใหม่จันทบุรี ดินแดนอัญมณีแห่งภาคตะวันออก
เก็บกระเป๋าไปเที่ยวเมืองจันทบุรีกัน เอาลิ้งค์หาที่พักจันทบุรีราคาถูกมาฝากด้วย กับ Traveloka ดีลพิเศษ ราคาพิเศษ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการจอง หรือใครที่ไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถจองได้เช่นเดียวกัน >> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/region/chanthaburi-10000185